สมาคมการค้าฯ ร้อง รมต.แรงงาน ทบทวนเงินเพิ่มประกันสังคม-เงินสมทบกองทุนเงินทดแทน ช่วยพี่น้อง SMEs

วันที่ 15 ธันวาคม 2566 เวลา 14.00  น. สมาคมการค้าส่งเสริมธุรกิจภาคกลาง นำโดย ดร.วินัย รุ่งฤทธิเดช  นายกสมาคมการค้าส่งเสริมธุรกิจภาคกลาง พร้อมด้วย นายอำนวย ศรีโยธา อุปนายกสมาคม และนายศรมพรต รณฤทธิวิชัย กรรมการบริหารสมาคมฯ เดินทางไปยังกระทรวงแรงงาน ถนนมิตรไมตรี เขตดินแดง เพื่อยื่นหนังสือให้รัฐบาลพิจารณาทบทวนเงินเพิ่มผิดนัดการจ่ายเบี้ยประกันสังคมและเงินสมทบกองทุนเงินทดแทนของผู้ประกอบการ SMEs และสมาชิกสมาคมฯ ที่ประสบความเดือดร้อน โดยมี นายอารี ไกรนรา เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เป็นผู้รับมอบ

ดร.วินัย รุ่งฤทธิเดช นายกสมาคมการค้าส่งเสริมธุรกิจภาคกลาง กล่าวว่า นับตั้งแต่ช่วงเวลาที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ได้ทำการรัฐประหารในปี 2557 มาจนถึงสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) และสถานการณ์สงคราม รัสเซีย กับ ยูเครน อิสราเอล กับ กลุ่มฮามาส จนถึงปัจจุบัน  ทำให้ผู้ประกอบการรายย่อย SMEs ต้องประคองธุรกิจของตนเอง เพื่อรักษาการจ้างพนักงานไว้ จึงทำให้ผู้ประกอบการ SMEs ติดค้างเงินเบี้ยประกันสังคมและเงินสมทบกองทุนเงินทดแทน ซึ่งจะต้องจ่ายเงินเพิ่มในอัตราร้อยละ 2 ต่อเดือน

ทำให้สำนักงานประกันสังคมแต่ละจังหวัด แต่ละพื้นที่ ต้องทำหน้าที่บังคับใช้พระราชบัญญัติประกันสังคมกำหนดไว้ เช่น อายัดบัญชีธนาคารกระทั่งทำให้ผู้ประกอบการ SMEs ต้องเสียเครดิตทางการค้ากับทาง supplier ส่งผลให้ธุรกิจหลายแห่ง ต้องปิดตัวและเกิดการเลิกจ้างพนักงานเป็นจำนวนมาก

สมาคมการค้าส่งเสริมธุรกิจภาคกลาง เห็นว่ารัฐบาลชุดนี้ นำโดย นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ต้องการช่วยเหลือ ผู้ประกอบการ SMEs ให้ยืนหยัดต่อสู้ได้ในภาวะการแข่งขันจากนักธุรกิจต่างประเทศทั่วโลก จึงได้นำคณะกรรมการสมาคมฯ เดินทางเข้ายื่นหนังสือเพื่อพิจารณาทบทวนยกเลิกเงินเพิ่มดังกล่าว สำหรับผู้ประกอบการ SMEs ที่มีความตั้งใจจะชำระเบี้ยประกันสังคมและเงินสมทบกองทุนเงินทดแทนจนครบถ้วนตามระยะเวลาที่กำหนด เพื่อช่วยเหลือพี่น้องผู้ประกอบการให้สามารถเดินหน้าดำเนินธุรกิจและร่วมขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศให้ยั่งยืนต่อไป

อรวรรณ สุขมา : รายงาน





Visitors: 791